Mitsubishi Galant Royal (E12A Minorchange) Catalogue.

Mitsubishi Galant Royal รถซีดานขนาดกลางยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งในยุค 80 ตอนนี้คบหาได้ในราคาเพียงไม่กี่หมื่นบาท

มีให้เลือกในแบบซีดาน 4 ประตู เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ล้ำเลิศด้วยวิทยาการด้านเทคโนโลยียานยนต์พร้อมบรรจุความหรูหราในทุกส่วนสัมผัสและความสะดวกสบาย และอุปกรณ์มาตรฐานมากมาย

Page 1 - Mitsubishi Galant Royal Introduction

กาแลนท์ รอยัล ยนตกรรมเพื่อการขับขี่ที่แสนสบาย

รถยนต์มิตซูบิชิ มีประวัติด้านอุตสาหกรรมรถยนต์มาตั้งแต่ปี 1917 อันเป็นปีที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คือผู้ผลิตรายแรกในประเทศญี่ปุ่น ที่ผลิตรถยนต์ในแบบอุตสาหกรรมการผลิต (Series Production) และรถยนต์รุ่นนั้นคือมิตซูบิชิโมเดล-เอ (Model-A)

วันนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้พัฒนารถยนต์ล้ำหน้าสู่อนาคตด้วย มิตซูบิชิ MP90-X รถต้นแบบที่ล้ำเลิศด้วยวิทยาการด้านเทคโนโลยีรถยนต์ ซึ่งได้ทดสอบอย่างถ้วนถี่ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่

Page 2 - Mitsubishi Galant Royal Introduction

และรถยนต์รุ่นล่าสุด มิตซูบิชิ กาแลนท์ รอแยล คือตัวอย่างที่ดีที่สุด ที่สะท้อนสุดยอดเทคโนโลยีจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส

กาแลนท์ รอแยล เป็นรถยนต์ที่ถึงพร้อมด้วยวิศวกรรมยานยนต์ที่ล้ำหน้า เพื่อการขับขี่ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะ และการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ออกแบบว่าด้วยหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ด้านการควบคุมและการโดยสาร พร้อมบรรจุความหรูหราในทุกส่วนสัมผัส เพื่อให้มั่นใจและแสนสบายในทุกขณะขับขี่

รถยนต์มิตซูบิชิ คือประวัติแห่งยนตกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับวันนี้ ด้วยบุคลิกของรถยนต์นั่งชั้นเยี่ยม ดั่งเช่น มิตซูบิชิ กาแลนท์ รอแยล

Page 3 - Mitsubishi Galant Royal Interior and Equipments

ครบครันอุปกรณ์การควบคุม ทุกส่วนสัมผัสสรรมาเพื่อความสุขสบาย

มิตซูบิชิ กาแลนท์ รอแยล เด่นภายในด้วยห้องโดยสารที่มีอุปกรณ์การควบคุมซึ่งทันสมัย สวิตช์ควบคุมการทำงานระบบต่างๆ ติดตั้งที่ศูนย์กลางควบคุมรูปปีก บริเวณพวงมาลัย เพื่อการใช้งานที่คล่องตัว สัญญาณไฟเตือนต่างๆ ที่จำเป็นต่อการขับขี่แสดงด้วยภาพสัญลักษณ์ เกียร์ 5 จังหวะ เข้าคล่อง เบาแรง

และเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน ที่คุณจะมั่นใจในความสะดวกสบาย อาทิ หน้าปัทม์ระบบตัวเลขเรืองแสง (Liquid Crystal Display) พวงมาลัยเพาเวอร์ กระจกไฟฟ้า และระบบระบายอากาศ

Page 4 - Mitsubishi Galant Royal Interior and Equipments

ทุกส่วนสัมผัสของกาแลนท์ รอแยล สรรค์สร้างเพื่อความสุขสบาย ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุชั้นเยี่ยม ที่นั่งตอนหน้าปรับได้ทุกอิริยาบถความถนัด ที่นั่งตอนหลังปรับระดับพนักพิงได้ ตลอดจนความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร จะให้คุณสุขสบายและเพลิดเพลินไปกับการขับขี่

Page 5 - Mitsubishi Galant Royal Engine

สมบูรณ์แบบในสมรรถนะและการควบคุม

มิตซูบิชิ กาแลนท์ รอแยล เปี่ยมพลังในทุกความเร็วรอบเครื่องยนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการขับขี่สำหรับวันนี้ รอบเครื่องยนต์และความเร็วที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการขับขี่ในเมืองจะอยู่ระหว่าง 1,500-3,000 รอบ/นาที หรือความเร็ว 40-70 กม./ชม. เครื่องยนต์รุ่นใหม่จะให้การตอบสนองการขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลและรวดเร็วในการเคลื่อนผ่านการจราจรในเมือง และพร้อมที่จะทะยานด้วยความเร็วสูงเมื่อเข้าสู่การจราจรบนทางหลวง และด้วยพลังเครื่องยนต์ที่เหลือเฟือจะให้คุณโลดแล่นไปบนถนนทางหลวงด้วยความมั่นใจในความเรียบลื่น และเงียบกริบของเครื่องยนต์

ระบบส่งกำลังใหม่ เกียร์เดินหน้า 5 จังหวะ ได้รับการคำนวณอัตราทดเฟืองเกียร์อย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถถ่ายทอดพลังเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่มีทุกจังหวะการเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลแม่นยำ

Page 6 - Mitsubishi Galant Royal Suspension and ETACS

ระบบกันสะเทือน Super Balance Suspension ให้ความนุ่มนวลและตอบสนองการขับขี่ดีเยี่ยม ให้การควบคุมทิศทางที่แม่นยำ รวมทั้งระบบห้ามล้อที่ให้การหยุดรถที่มั่นใจในทุกระดับความเร็ว ทั้งหมดนี้รวมอยู่ใน มิตซูบิชิ กาแลนท์ รอแยล รถยนต์ที่สมบูรณ์แบบในสมรรถนะและการควบคุม เพื่อการขับขี่ที่เพลิดเพลิน

หนึ่งในความเด่นเป็นพิเศษเหนือมาตรฐานของกาแลนท์ ซิกม่า คือ ระบบ Electronic Time and Alarm Control System หรือ ETACS อันเป็นระบบควบคุมเวลาและสัญญาณเตือนการทำงานต่างๆ ด้วยไมโครคอมพิวเตอร์ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับและผู้โดยสาร

Back Cover - Mitsubishi Galant Royal Specifications and Dimensional Views

ทดสอบคุณภาพ ... พิสูจน์สมรรถนะ

ที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส การควบคุมคุณภาพคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เราเข้าใจถึงการผลิตซึ่งจำเป็นต้องมีการทดสอบและตรวจสอบพิจารณาอย่างถ้วนถี่ในทุกๆ ส่วนของพาหนะตลอดทุกขั้นตอนการผลิต

ดังนั้น ผู้ใช้รถยนต์มิตซูบิชิจะสามารถเดินทางไปได้ทั่วทุกแห่งหน ด้วยความวางใจ มิตซูบิชิ Galant รอแยล ได้ผ่านทุกขั้นตอนการทดสอบที่ยากยิ่งของเรา เพื่อพิสูจน์คุณค่าที่คู่ควรกับสัญลักษณ์ "มิตซูบิชิ" อันเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพ

Mitsubishi Galant Royal มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 4G37 แบบ 4 สูบ OHC ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 15.0 กก.-ม. ที่ 3,500 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์เดี่ยว ลิ้นคู่ ดูดลงล่าง ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด บนน้ำหนักตัวรถ 1,055 กิโลกรัม

Honda Civic (EG) 4-Door '92 Catalogue.

 

ฮอนด้า ซีวิค (EG) 4 ประตู เปิดตัวในไทยเมื่อเดือนเมษายน 2535 ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร มาพร้อม Slogan "ศิลปะแห่งยนตรกรรมระดับโลก" หรือ "A New World Standard" แม้รูปทรงจะโฉบเฉี่ยว สปอร์ต แต่สมรรถนะเครื่องยนต์กลับเป็นแบบเดิม 100% แถมอุปกรณ์มาตรฐานหลายอย่าง ลดต้นทุนซะ ...

ในตอนนั้นหลายคนถึงพูดกันว่า ทำไม ฮอนด้าคาร์ส์ (ประเทศไทย) จึงไม่นำเทคโนโลยียานยนต์ล่าสุดที่แท้จริงของ ฮอนด้า ซีวิค มาจำหน่ายในไทย

สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา LX ราคาเริ่มต้นที่ 497,000 บาท และในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ EX ราคาอยู่ที่ 537,000 บาท

Honda Civic (EG) 4-Door was debut in Thailand at April 1992, First Version Start in 2 Grades is LX (M/T) and EX (A/T).

Page 1-6 - Honda Civic 4-Door Introduction

ความเป็นเลิศแห่งศิลปยนตรกรรมระดับโลก

ฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ 4 ประตู ซีดาน ปรากฏการณ์ล่าสุดของรูปลักษณ์ใหม่ในศิลปะแห่งยนตรกรรม ถูกพัฒนามาเพื่อสร้างสรรค์สุนทรียภาพแห่งการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 L 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มีสมรรถนะคล่องแคล่ว ปราดเปรียว ผสานความภูมิฐาน ทันสมัย

จนเป็นความสง่างามของฮอนด้า ซีวิค ใหม่ และเป็นความภาคภูมิใจอีกครั้งหนึ่งของฮอนด้า

Page 2 - Honda Civic Exterior and Aerodynamics Test

ฮอนด้า ซีวิค 4 ประตู ขณะกำลังทดสอบประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์

Page 3 - Honda Civic Engine and Suspension

Honda Civic รูปลักษณ์ใหม่ ความภูมิใจของฮอนด้า

นับแต่ฮอนด้า ซีวิค ได้ปรากฏโฉมสู่สายตาชาวโลกก็นับเป็นการเริ่มต้นของสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ ความภาคภูมิใจของฮอนด้า อยู่ที่การพัฒนาสมรรถนะให้มีประสิทธิภาพ และสร้างรูปลักษณ์ที่สง่างาม เพื่อตอบสนองความพึงพอใจของผู้ใช้

Honda Civic โฉมใหม่ ศิลปแห่งยนตรกรรมระดับโลก ที่มีรูปร่างปราดเปรียวเร้าใจ และสมรรถนะ ในการขับเคลื่อนที่คล่องตัวกว่า

Page 4 - Honda Civic Exterior and Interior

กันชนผลิตจากวัสดุพิเศษ ทนทาน ปลอดสนิม, ห้องสัมภาระท้ายเปิด-ปิด สะดวกในมุมกว้างขึ้น, พวงมาลัยเพาเวอร์ และแผงหน้าปัด ดีไซน์สวยงาม, พื้นที่ห้องโดยสาร กว้างขวาง เพิ่มความสบาย

Page 5 - Honda Civic Specifications, Body Colour Chart and Equipments

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของฮอนด้า ซีวิค และอุปกรณ์มาตรฐานของฮอนด้า ซีวิค พร้อมตัวอย่างสีภายนอก

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 11.6 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์ ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด บนน้ำหนักตัวรถ 990 กิโลกรัม และ 1,030 กิโลกรัม ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ

Back Cover - Honda Civic 4-Door

หน้าปกหลังของ Catalogue ฮอนด้า ซีวิค 4 ประตู

Catalogue พิมพ์เมื่อเดือน 4 ปี 1992

ตารางทะเบียนรถยนต์ของกรุงเทพมหานคร จากแบบเก่า เทียบเป็นแบบหมวดตัวอักษร 2 ตัว

ตารางทะเบียนรถยนต์ของกรุงเทพมหานคร จากแบบเก่า เทียบเป็นแบบหมวดตัวอักษร 2 ตัว

สำหรับทุกท่านที่มีทะเบียนรถรุ่นเก่า ผมนำมาฝากเป็นความรู้ครับ เช่น ทะเบียน 1ก-1234 กรุงเทพมหานคร หากนำมาแจ้งป้ายชำรุดกับทางกรมการขนส่งทางบก จะได้รับการเทียบหมวดเป็น กก 1234 กรุงเทพมหานคร

*หมายเหตุ ข้อมูลในตารางนี้เป็นของเก่า ใช้สำหรับเทียบทะเบียนรถยนต์แบบเก่า ไปยังหมวดตัวอักษร 2 ตัว เท่านั้น ส่วนข้อมูลของหมวดไม่ประมูล, หมวดจับฉลาก และหมวดประมูล เป็นข้อมูลล่าสุดใน ณ เวลานั้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก yacht7 @ Bervip / เสนอโดย LIM-Catalogue

Mitsubishi Colt Spider (C10) Concept Car รถดังจาก "เฉินหลง" ในหนัง "Armour of God"

รถรุ่นดังจากในหนังเมื่อปี 1986 เรื่อง "Armour of God" "ใหญ่สั่งมาเกิด" ที่ "เฉินหลง" (Jackie Chan) เล่น (เฮียเฉินหลงแกซี้ปึ้กกับรถ Mitsubishi มาตลอดในยุคนั้น) ปัจจุบันโชว์อยู่ที่โรงงานผลิตรถยนต์ Mitsubishi ที่เมือง Okazaki จังหวัด Aichi ประเทศญี่ปุ่น

โดยรถรุ่นนี้ Mitsubishi Colt Spider ในญี่ปุ่นเรียกว่ารุ่น Mirage Spider ถ้าทางยุโรปเรียกเป็นรุ่น Colt Spider ซึ่งเป็นรถต้นแบบในโครงการ "Mitsubishi K Project" ออกมาในปี 1984 พื้นฐานมาจาก Mitsubishi Colt / Mirage 3 ประตู โดยกระจกรอบคันเป็นวัสดุ Acrylic ภายในมีติด TV วิทยุ โทรศัพท์ และปุ่ม Twin Turbo แบบที่เห็นในหนัง

 

นำออกวิ่งเป็น Pace Car ครั้งแรกในงาน Macau Grand Prix ปี 1984 ที่ขับโดยเฉินหลง เครื่องยนต์คงใช้รหัส 4G15 เช่นเคย รถคันนี้ทาง Mitsubishi น่าจะทำออกมาหลายคัน เพราะมีทั้งแบบพวงมาลัยซ้าย และพวงมาลัยขวา และเผื่อพังตอนถ่ายหนัง แถมระเบิดทิ้งกลางสะพานไปอีกคันนึง



สำหรับใครที่เบื่อๆ กับ Mitsubishi Lancer หรือ Mitsubishi Champ แล้ว จะเอาไปตัดหลังคาแล้วปิดประตูหลัง แต่งรถเป็นแบบนี้ก็เท่ดีนะครับ

---

Original Photos and Information From.

- http://www.e-guide.ne.jp/1999/sketchbook/sk84colt.htm
- http://minkara.carview.co.jp/userid/738977/blog/18710166/
- http://minkara.carview.co.jp/userid/145202/blog/14300917/

TRD 2000 (AE101) '94 Catalogue.

ในปี 1994 ช่วงที่รายการแข่งขันรถยนต์ JTCC (All Japan Touring Car Championship) กำลังฮิตในประเทศญี่ปุ่น ตอนนั้น Toyota ส่ง Corolla ลงเข้าแข่งขัน ... สำนักแต่ง TRD (Toyota Racing Development) จึงนำ Toyota Corolla มาแต่งพิเศษในชื่อ "TRD 2000"

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3S-GE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 99 คัน ในราคา 3,350,000 เยน ซึ่งก็จำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว



Page 1-2 - TRD 2000 Exterior, Equipments and Options

TRD 2000 มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3S-GE พร้อมชุดแต่งครบครัน อาทิ คอยล์สปริง TRD, หัวเกียร์ TRD แบบ Quick Shift, ท่อไอเสียคู่ TRD แบบสแตนเลส, โช๊คอัพ TRD, ผ้าเบรก TRD, เหล็กค้ำโช๊คหน้า TRD, Manual Transaxle แบบ S54, สติ้กเกอร์ด้านข้าง และชื่อรุ่นด้านหลัง

ในส่วนของ Option สามารถสั่งเพิ่มเติมได้ อาทิ ชุดคลัทช์ TRD, เฟืองท้าย TRD แบบ LSD, เหล็กกันโคลง TRD, เบาะนั่ง Konig Prinz P200, พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ 3 ก้าน TRD และล้อแม็ก TRD Type-FT (15X6.5JJ-38) พร้อมยาง Yokohama Grand Prix M5 ขนาด 195/55R15

ราคาตัวรถ 1,726,000 เยน ราคารวมชุดแต่งทั้งหมด 3,350,000 เยน

 

Back Cover - TRD 2000 Specifications

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของ TRD 2000 ใช้พื้นฐานจาก Toyota Corolla GT (เกียร์ธรรมดา 5 สปีด) รหัสรุ่น E-AE101-AEMVF

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3S-GE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19.5 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด บนน้ำหนักตัวรถ 1,140 กิโลกรัม

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามมาตรฐานโหมด 10-15) อยู่ที่ 11.2 กม./ลิตร

Catalogue พิมพ์เมื่อเดือน 10 ปี 1994

---

Original Catalogue Photos From : http://www7b.biglobe.ne.jp/~burumeta/irocoro/100/trd2000/trd2000.html

Renault 19 Catalogue.

ภายใต้รูปลักษณ์หรู สง่า ของ Renault 19 ที่รู้จัก ความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ พลันบังเกิดเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ สัมผัสได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้น สุดความเร็วที่สุดเขตแดนของใจ Renault 19 Injection ท้าทายกว่าที่เคยสัมผัส

จำหน่ายโดย บริษัท เรโนลต์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ตระกูล "บุญวิสุทธิ์" ถือหุ้นใหญ่ และนับเป็นบริษัทที่เข้ามารับช่วงทำตลาด Renault ในไทย เป็นรายที่ 4

สำหรับรถยนต์ Renault ในยุคนั้น ผลิตโดย บริษัท ไทย-สวีดิช แอสเซมบลีย์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานประกอบรถยนต์ Volvo ในประเทศไทย

สำหรับรุ่น TXE ราคา 549,000 บาท และในรุ่น TXI ราคา 559,000 บาท



Renault 19 Introduction

The Exciting Power

สู่การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งกว่าภายใต้รูปลักษณ์ตามหลัก Aerodynamic ที่ให้ค่า CD เพียง 0.31 และกับเครื่องยนต์พลังแรง 1,721 ซีซี ระบบ หัวฉีดมัลติพอยท์ ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า (DIN) ที่ 5,500 รอบ/นาที

พลังอำนาจที่แฝงไว้ในความนุ่มนวล ง่ายดายต่อการควบคุม ด้วยระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ แบบ แรคแอนด์พีเนียน ปลอดภัยยิ่งกว่ากับการทรงตัวด้วยระบบกันสะเทือนแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ทอร์ชั่นบาร์ ตามแบบฉบับรถยุโรปชั้นนำ



Renault 19 Introduction

The Exciting Power

พร้อมระบบห้ามล้อแบบ ดิสค์เบรคและดรัมเบรค พร้อมหม้อลมแบบ 2 วงจรไขว้ หยุดได้ฉับไวและปลอดภัยแม้ในความเร็วสูง สะดวกสบายยิ่งขึ้นกับกุญแจ Remote Central Lock และมาตรวัดน้ำมันเครื่องที่ไม่มีใครเหมือน

Renault 19 Injection มิติใหม่แห่งการขับขี่ที่เร้าใจ ท้าทายกว่าที่เคยสัมผัส

ในรุ่น TXE มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.7 ลิตร แบบ 4 สูบ OHC ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 5,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.1 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์แบบท่อคู่ ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ทำความเร็วได้สูงสุด 185 กม./ชม.

ในรุ่น TXI มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.7 ลิตร แบบ 4 สูบ OHC ให้แรงม้าสูงสุด 107 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 15.4 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดมัลติพอยท์ ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ทำความเร็วได้สูงสุด 195 กม./ชม.

ระบบกันสะเทือนแบบอิสระ 4 ล้อ ช่วงล่างหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง ช่วงล่างหลังแบบทอร์ชั่นบาร์ พร้อมโช๊คอัพ เหล็กกันโคลง



Renault History

1898 - Prototype เรโนลต์คันแรกในประวัติศาสตร์ สร้างโดย หลุยส์ เรโนลต์ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1 สูบ 3/4 แรงม้า

1906 - ชนะเลิศการแข่งขัน Grand Prix ครั้งแรก

1934 - เจ้าของสถิติความเร็วโลกในการแข่งขัน 48 ชม. ของ Nervasport

1964 - Renault Alpine ชนะเลิศการแข่งขัน รายการ Le Mans Energy Run

1976 - Renault Turbo A442 ชนะเลิศการแข่งขัน รายการ Le Mans 24 Hour Race

1982 - Renault RE20 ชนะเลิศการแข่งขัน Grand Prix ที่ Brazil, South Africa และ Austria

1991 - บริษัท เรโนลต์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดสำนักงานใหญ่ พร้อม บริการและอะไหล่ครบวงจร บนพื้นที่ 15 ไร่ ณ ถนนพระราม 9 กทม.



Renault New Era in Thailand

เรโนลต์ เพชรเม็ดงามแห่งความเป็นหนึ่ง

เรโนลต์ยุคใหม่ในประเทศไทย จากเรโนลต์ 9 ที่คุณคุ้นเคย ถึงเรโนลต์ 19 ที่คุณรู้จัก พร้อมกับมิติใหม่แห่งการบริการและอะไหล่แบบครบวงจร ณ สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ บนถนนพระราม 9 คือเกียรติประวัติที่มอบให้ จากเรโนลต์เพื่อคุณในวันนี้



10 Decade Of Honor 1898-1991

10 ทศวรรษแห่งเกียรติประวัติ 1898-1991

93 ปี แห่งความรุ่งโรจน์ของเรโนลต์ 10 ทศวรรษแห่งเกียรติประวัติ ที่แลกมาด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสรรค์สร้างยนตรกรรมที่ล้ำหน้าเพื่อคุณเสมอมา เรโนลต์ ... เพชรน้ำเอกที่ควรค่ากับผู้รู้ซึ้ง เช่นคุณ

เพชรน้ำเอกแห่งรถยุโรป

ครบรอบ 101 ปี สถานีรถไฟกรุงเทพ

เดิมที สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่นิยมเรียกกันว่า สถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งคำว่า หัวลำโพง สันนิษฐานว่าตั้งชื่อตามคลองและทุ่งที่มีฝูงวัวที่วิ่งกันคึกคัก ที่เรียกว่า ทุ่งวัวลำพอง และได้เพี้ยนเสียงมาเป็น หัวลำโพง บ้างก็สันนิษฐานว่าเป็นชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่งคือ ต้นลำโพง ซึ่งเคยมีมากในบริเวณนี้

สถานีนี้เริ่มสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี 2453 สร้างเสร็จและเริ่มใช้งาน วันที่ 25 มิถุนายน 2459 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 6

สถานีรถไฟกรุงเทพ เดิมเป็นสถานีที่ให้บริการทั้งด้านการขนส่งสินค้า และขนส่งมวลชน ต่อมาการขยายตัวในด้านการโดยสารและขนส่งสินค้ามีมากขึ้น แต่ด้วยพื้นที่อันจำกัดเพียง 120 ไร่ จึงทำให้ต้องย้ายกิจการขนส่งสินค้าไปอยู่ที่ย่านสินค้าพหลโยธิน ตั้งแต่ปี 2503 และทำการปรับปรุงสถานีรถไฟกรุงเทพให้เป็นสถานีรถไฟสำหรับบริการด้านขนส่งมวลชนเพียงอย่างเดียว เพื่อสามารถรองรับผู้โดยสารจากทั่วทุกสารทิศของประเทศ

ตัวสถานีแบ่งเป็นสองส่วนหลัก ได้แก่ อาคารมุขหน้า มีลักษณะเหมือนระเบียงยาว และอาคารโถงสถานีเป็นอาคารหลังคาโค้งขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิก (Classicism) คือ เป็นงานเลียนแบบสถาปัตยกรรมโบราณของกรีก-โรมัน จุดเด่นของสถานีกรุงเทพอีกอย่างหนึ่งคือ กระจกสีที่ช่องระบายอากาศ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังซึ่งประดับไว้อย่างผสมผสานกลมกลืนกับตัวอาคาร เช่นเดียวกับนาฬิกาบอกเวลาซึ่งติดตั้งไว้กลางส่วนโค้งของอาคารด้านในและด้านนอก โดยเป็นนาฬิกาที่สั่งทำขึ้นพิเศษเป็นการเฉพาะ ไม่ระบุชื่อบริษัทผู้ผลิตเหมือนนาฬิกาทั่วๆ ไป

บริเวณที่พักผู้โดยสารเป็นห้องโถงชั้นครึ่ง ชั้นล่างซึ่งมีที่นั่งจำนวนมาก มีร้านค้าหลากหลาย ก่อนถึงห้องจำหน่ายตั๋วล่วงหน้ายังมีห้องละหมาดอีกด้วย เหนือห้องประชาสัมพันธ์มีจอภาพขนาด 300 นิ้ว ควบคุมด้วยระบบ Dolby Digital ฉายเรื่องราวเกี่ยวกับการรถไฟ ส่วนชั้นลอย มีที่นั่งไม่มากนัก มีบริษัททัวร์ บริษัทรับจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา และร้านกาแฟ ที่ผนังด้านซ้ายและขวาของสถานีกรุงเทพ มีภาพเขียนสีน้ำ เป็นภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ของประเทศ อาทิ พระบรมมหาราชวัง ตลาดน้ำ เขาวัง ภูกระดึง หาดสมิหลา ฯลฯ

นอกจากนี้ ที่ด้านหน้าสถานีมีสวนหย่อมและน้ำพุสำหรับประชาชน โดยข้าราชการรถไฟได้รวบรวมทุนทรัพย์จัดสร้างอนุสาวรีย์น้อมเกล้าฯ อุทิศส่วนกุศลถวายแด่พระพุทธเจ้าหลวง อนุสาวรีย์ที่ว่านี้เป็นรูป "ช้างสามเศียร" มีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แกะสลักเป็นภาพนูนสูงประดิษฐานอยู่ด้านบน

กิจการรถไฟในปัจจุบัน มีเส้นทางที่ออกจากสถานีกรุงเทพ จำนวน 4 สาย ได้แก่ ทางรถไฟสายเหนือ ต้นทางอยู่ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ ปลายทาง สถานีรถไฟเชียงใหม่ ระยะทาง 751.42 กิโลเมตร ทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ต้นทางอยู่ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ เมื่อถึงสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระ จะแยกออกเป็น 2 สาย ดังนี้ ปลายทางสถานีรถไฟอุบลราชธานี ระยะทาง 575.10 กิโลเมตร ปลายทางสถานีรถไฟหนองคายใหม่ ระยะทาง 621.10 กิโลเมตร ทางรถไฟสายตะวันออก ต้นทางสถานีรถไฟกรุงเทพ เมื่อถึงสถานีรถไฟชุมทางฉะเชิงเทราแล้วแยกออกเป็น 2 สาย คือ ปลายทางสถานีรถไฟอรัญประเทศ ระยะทาง 254.50 กิโลเมตร ปลายทางสถานีรถไฟบ้านพลูตาหลวง ระยะทาง 184.03 กิโลเมตร ทางรถไฟสายใต้ต้นทางสถานีกรุงเทพ และสถานีธนบุรีเมื่อถึงสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่แล้วแยกออกเป็น 2 สาย คือ ปลายทางสถานีรถไฟบัตเตอร์เวอร์ธ ประเทศมาเลเซีย ระยะทาง 973.84 กิโลเมตร (นับถึงสถานีรถไฟปาดังเบซาร์) ปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ระยะทาง 1,142.99 กิโลเมตร

สถานีรถไฟกรุงเทพในปัจจุบัน มีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หัวลำโพง ให้บริการอยู่ภายในชั้นใต้ดินของสถานีรถไฟ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย / เสนอโดย LIM-Catalogue