LIM-Catalogue Facebook

วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ครบรอบ 101 ปี สถานีรถไฟกรุงเทพ



เดิมที สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่นิยมเรียกกันว่า สถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งคำว่า หัวลำโพง สันนิษฐานว่าตั้งชื่อตามคลองและทุ่งที่มีฝูงวัวที่วิ่งกันคึกคัก ที่เรียกว่า ทุ่งวัวลำพอง และได้เพี้ยนเสียงมาเป็น หัวลำโพง บ้างก็สันนิษฐานว่าเป็นชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่งคือ ต้นลำโพง ซึ่งเคยมีมากในบริเวณนี้

สถานีนี้เริ่มสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี 2453 สร้างเสร็จและเริ่มใช้งาน วันที่ 25 มิถุนายน 2459 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 6

สถานีรถไฟกรุงเทพ เดิมเป็นสถานีที่ให้บริการทั้งด้านการขนส่งสินค้า และขนส่งมวลชน ต่อมาการขยายตัวในด้านการโดยสารและขนส่งสินค้ามีมากขึ้น แต่ด้วยพื้นที่อันจำกัดเพียง 120 ไร่ จึงทำให้ต้องย้ายกิจการขนส่งสินค้าไปอยู่ที่ย่านสินค้าพหลโยธิน ตั้งแต่ปี 2503 และทำการปรับปรุงสถานีรถไฟกรุงเทพให้เป็นสถานีรถไฟสำหรับบริการด้านขนส่งมวลชนเพียงอย่างเดียว เพื่อสามารถรองรับผู้โดยสารจากทั่วทุกสารทิศของประเทศ

ตัวสถานีแบ่งเป็นสองส่วนหลัก ได้แก่ อาคารมุขหน้า มีลักษณะเหมือนระเบียงยาว และอาคารโถงสถานีเป็นอาคารหลังคาโค้งขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิก (Classicism) คือ เป็นงานเลียนแบบสถาปัตยกรรมโบราณของกรีก-โรมัน จุดเด่นของสถานีกรุงเทพอีกอย่างหนึ่งคือ กระจกสีที่ช่องระบายอากาศ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังซึ่งประดับไว้อย่างผสมผสานกลมกลืนกับตัวอาคาร เช่นเดียวกับนาฬิกาบอกเวลาซึ่งติดตั้งไว้กลางส่วนโค้งของอาคารด้านในและด้านนอก โดยเป็นนาฬิกาที่สั่งทำขึ้นพิเศษเป็นการเฉพาะ ไม่ระบุชื่อบริษัทผู้ผลิตเหมือนนาฬิกาทั่วๆ ไป

บริเวณที่พักผู้โดยสารเป็นห้องโถงชั้นครึ่ง ชั้นล่างซึ่งมีที่นั่งจำนวนมาก มีร้านค้าหลากหลาย ก่อนถึงห้องจำหน่ายตั๋วล่วงหน้ายังมีห้องละหมาดอีกด้วย เหนือห้องประชาสัมพันธ์มีจอภาพขนาด 300 นิ้ว ควบคุมด้วยระบบ Dolby Digital ฉายเรื่องราวเกี่ยวกับการรถไฟ ส่วนชั้นลอย มีที่นั่งไม่มากนัก มีบริษัททัวร์ บริษัทรับจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา และร้านกาแฟ ที่ผนังด้านซ้ายและขวาของสถานีกรุงเทพ มีภาพเขียนสีน้ำ เป็นภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ของประเทศ อาทิ พระบรมมหาราชวัง ตลาดน้ำ เขาวัง ภูกระดึง หาดสมิหลา ฯลฯ

นอกจากนี้ ที่ด้านหน้าสถานีมีสวนหย่อมและน้ำพุสำหรับประชาชน โดยข้าราชการรถไฟได้รวบรวมทุนทรัพย์จัดสร้างอนุสาวรีย์น้อมเกล้าฯ อุทิศส่วนกุศลถวายแด่พระพุทธเจ้าหลวง อนุสาวรีย์ที่ว่านี้เป็นรูป "ช้างสามเศียร" มีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แกะสลักเป็นภาพนูนสูงประดิษฐานอยู่ด้านบน

กิจการรถไฟในปัจจุบัน มีเส้นทางที่ออกจากสถานีกรุงเทพ จำนวน 4 สาย ได้แก่ ทางรถไฟสายเหนือ ต้นทางอยู่ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ ปลายทาง สถานีรถไฟเชียงใหม่ ระยะทาง 751.42 กิโลเมตร ทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ต้นทางอยู่ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ เมื่อถึงสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระ จะแยกออกเป็น 2 สาย ดังนี้ ปลายทางสถานีรถไฟอุบลราชธานี ระยะทาง 575.10 กิโลเมตร ปลายทางสถานีรถไฟหนองคายใหม่ ระยะทาง 621.10 กิโลเมตร ทางรถไฟสายตะวันออก ต้นทางสถานีรถไฟกรุงเทพ เมื่อถึงสถานีรถไฟชุมทางฉะเชิงเทราแล้วแยกออกเป็น 2 สาย คือ ปลายทางสถานีรถไฟอรัญประเทศ ระยะทาง 254.50 กิโลเมตร ปลายทางสถานีรถไฟบ้านพลูตาหลวง ระยะทาง 184.03 กิโลเมตร ทางรถไฟสายใต้ต้นทางสถานีกรุงเทพ และสถานีธนบุรีเมื่อถึงสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่แล้วแยกออกเป็น 2 สาย คือ ปลายทางสถานีรถไฟบัตเตอร์เวอร์ธ ประเทศมาเลเซีย ระยะทาง 973.84 กิโลเมตร (นับถึงสถานีรถไฟปาดังเบซาร์) ปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ระยะทาง 1,142.99 กิโลเมตร

สถานีรถไฟกรุงเทพในปัจจุบัน มีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หัวลำโพง ให้บริการอยู่ภายในชั้นใต้ดินของสถานีรถไฟ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย / เสนอโดย LIM-Catalogue

วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เพราะเราคู่กัน THN - NKF @ สถานีรถไฟกรุงเทพ




เวลาประมาณ 06.45 น. วันที่ 17 มิ.ย. 60 เกิดเหตุรถไฟขบวน 285 กรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา เบียดกับขบวน 78 หนองคาย - กรุงเทพ ที่บริเวณสับเปลี่ยนระหว่างราง 9 และราง 10 สถานีรถไฟกรุงเทพ ทำให้ตู้สุดท้ายของขบวน 78 เพลา 1 และ 2 ล้อด้านซ้ายทั้ง 2 ล้อถูกยกลอยขึ้นเหนือสันราง และเพลาหลัง 2 เพลา ตกราง 4 ล้อ ขณะกำลังเตรียมเข้าจอดชานชาลาสถานีกรุงเทพ

ส่วนขบวน 285 กรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา ที่ออกจากชานชาลาสถานีกรุงเทพ ตู้หน้าซึ่งคันนำ เพลาหน้า 1 และ 2 ยกลอยเหนือสันราง 2 ล้อด้านขวา



จากกรณีมีภาพรถดีเซลราง 2 ขบวน เบียดกันที่สถานีรถไฟกรุงเทพ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยรถดีเซลรางขบวนแรกมาจากหนองคาย ส่งผู้โดยสารเสร็จ กำลังจะวิ่งกลับไปเก็บในโรงรถดีเซลรางกรุงเทพ ส่วนอีกขบวนเพิ่งออกมาจากโรงรถจะไปเทียบชานชาลา เบื้องต้น คาดว่าสื่อสารกันผิด ขบวนหนึ่งให้เข้า ขบวนหนึ่งให้ออก เลยทำให้เกิดการเบียดกันตามภาพที่ปรากฏ

 

เหตุการณ์ดังกล่าว เรียกว่า "Human Error" ซึ่งทั้ง 2 ขบวน ไม่มีผู้โดยสารอยู่ รถไฟใช้ความเร็วของการสับเปลี่ยนในย่านไม่เกิน 15 กม./ชม. ซึ่งไม่ถือเป็นความเร็วพอที่จะทำให้รถไฟได้รับการเสียหายหนัก อาจแค่สีถลอก หลังจากนี้รอตรวจสอบให้แน่ชัดอีกทีว่า ขบวนไหนได้รับอนุญาตหรือไม่ได้รับอนุญาตอย่างไร

ขอขอบคุณภาพจาก winya41

เสนอโดย : http://www.facebook.com/LIM.Catalogue

วันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2560

"งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 41" เริ่มแล้ว ชมรถทรงคุณค่า หายากกว่า 100 คัน



สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และ สเปลล์ จัด "งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 41" จำลองบรรยากาศยุคอดีต ของถนนเจริญกรุง บำรุงเมือง เฟื่องนคร พร้อมกิจกรรมมากมาย ตั้งแต่วันนี้ - 18 มิถุนายน



ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมร่วมกับศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คจัด "งานประกวดรถโบราณครั้งที่ 41" ภายใต้แนวคิด "คุณค่า และความงามร่วมสมัย - Value and Contemporary Beauty" มีสมาชิกและผู้สนใจส่งรถเข้าประกวดและจัดแสดงกว่า 100 คัน



"การประกวดปีนี้ สมาคมฯ แบ่งการประกวดออกเป็น 7 รุ่น ได้แก่ รถรุ่นบรรพบุรุษ รถรุ่นผ่านศึก รถโบราณ รถรุ่นก่อนสงคราม รถรุ่นหลังสงคราม รถคลาสสิค และรถคลาสสิคร่วมสมัย โดยรถเด่นของงานปีนี้คือ Overland Model 40 Roadster ปี 1910 คันเดียวในประเทศไทย, MG VA ปี 1937, Triumph TR3A Roadster ปี 1961, Bentley S2 ปี 1960, Rolls-Royce Corniche ปี 1977"



ด้าน รัตนา อนันทนุพงศ์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ผู้ให้การสนับสนุนด้านสถานที่จัดงานกล่าวว่า "ศูนย์การค้าฯ ได้ขยายพื้นที่จัดงาน เป็น 7,000 ตร.ม. โดยเพิ่มในส่วนพื้นที่ชั้น G ศูนย์การค้าสเปลล์ พร้อมเพิ่มความคลาสสิค ด้วยบรรยากาศของถนนสายสำคัญในกรุงเทพ เมื่อ 60 ปีก่อน ได้แก่ ถนนเจริญกรุง บำรุงเมือง เฟื่องนคร เพื่อให้เข้ากับรถโบราณ และรถคลาสสิคที่นำมาจัดแสดง รองรับกลุ่มโซเชี่ยลที่ชอบถ่ายภาพ พร้อมทั้งฟังเพลงฮิตกับนักร้องรุ่นเก๋า 14 มิถุนายน 2560 เวลา 17.00 น. วง The Beatlenuts, 15 มิถุนายน 2560 เวลา 17.00 น. วง Blue Sapphires, 16 มิถุนายน 2560 เวลา 17.00 น. วง The Balloon, 17 มิถุนายน 2560 เวลา 13.00 น. วง คณะเรา เวลา 17.00 น. วง The Glass และ 18 มิถุนายน 2560 เวลา  17.00 น. วง The Youngsters"



นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การประกวดราชินีแห่งความสง่างาม (Concours d'Elegance) ตลาดนัดอะไหล่รถโบราณ บอร์ด อยากซื้อ-อยากขายรถโบราณ คอนเสิร์ตเพลงฮิตในอดีต ถ่ายรูปคู่รถโบราณ จำหน่ายสินค้าวินเทจ เช่น หนังสือ นิตยสาร เกี่ยวกับรถโบราณ แสตมป์รถโบราณ รถโบราณจำลอง กว่า 1,000 คัน เป็นต้น



เชิญเที่ยว "งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 41" เข้าชมฟรี ณ ชั้น G ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ ระหว่างวันที่ 14-18 มิถุนายน 2560 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.vintagecarclub.or.th

วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560

BMW 318i 2-Door Sedan (E30) Catalogue.



BMW 318i 2 ประตู ในยุคที่บริษัท ยนตรกิจ จำกัด เป็นผู้จำหน่าย ตัวรถภายนอกสวยสปอร์ต เท่ ท้าทาย แน่นหนา ภายในโอ่อ่า หรูหรา ถูกใจวัยรุ่นวัยเฒ่าทั้งหลายที่โปรดปรานการขับอวดกันเพิ่มขึ้นอีก ในราคา 595,000 บาท

สำหรับ BMW 318i 2 ประตู มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส M10 แบบ 4 สูบ แถวเรียง จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด L-Jetronic ของ Bosch ให้แรงม้าสูงถึง 105 แรงม้า (DIN) ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 184 กม./ชม.



BMW 318i 2-Door Sedan Exterior

สีดำ สวย หรู สปอร์ต



BMW 318i 2-Door Sedan Exterior and Interior

BMW 318i ความแตกต่างในแบบสปอร์ตที่คุณมองเห็น

สิ่งแรกที่คุณจะเห็นเมื่อมอง BMW 318i รถสปอร์ต 2 ประตูรุ่นล่าสุดของ BMW ก็คือความสปอร์ตสมบูรณ์แบบตั้งแต่ลักษณะภายนอกซึ่งออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยติดตั้งสปอยเลอร์บนฝากระโปรงท้าย เพื่อลดค่าความเสียดทานอากาศ ยังผลให้การทรงตัวและยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยม

สีมุกพิเศษ ให้ความสวยงาม คงทน เพราะใช้แร่ไมกาแทนแร่อลูมิเนียมในสีเมทาลิกทั่วไป แร่ไมกานี้ไม่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ จึงไม่ทำให้เกิดรอยด่างแม้เมื่อใช้ไปนานวัน

การตกแต่งแบบสปอร์ตภายใน พวงมาลัย 3 ก้านของ M-Technic เพิ่มความกระชับในการขับขี่ เกียร์เดินหน้า 5 สปีด ให้ทั้งสมรรถนะและความปลอดภัย

เบาะนั่งแบบสปอร์ต สามารถปรับได้ทั้งความสูงและมุมเงย นอกจากนี้ เมื่อโยกพนักพิงไปด้านหน้า ตัวเบาะหน้าจะเลื่อนไปข้างหน้าด้วย ทำให้การเข้า-ออกของผู้โดยสารด้านหลังเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

BMW 318i จึงให้ความสปอร์ตทั้งในส่วนที่คุณมองเห็นได้ และในส่วนที่คุณสัมผัสได้



BMW Formula 1 in 80's

รถแข่ง Formula 1 จากค่าย BMW ในยุค 80



BMW 318i 2-Door Sedan Engine

BMW 318i : เครื่องยนต์ตระกูลเดียวกับรถแข่ง BMW Formula I

เช่นเดียวกับรถแข่งชั้นยอดอย่าง BMW Formula I ซึ่งเป็นแชมป์โลกปี 1984 BMW 318i ใช้ระบบหัวฉีดอีเล็คโทรนิคส์แบบ L-Jetronic ทำให้เครื่องยนต์ขนาด 1,766 ซีซี มีกำลังสูงถึง 105 แรงม้า (DIN) ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 184 กม./ชม.

เครื่องยนต์ BMW 318i นี้เป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยมีฝาสูบและลูกสูบแบบใหม่ทำให้เกิดมิติใหม่ของห้องเผาไหม้ อันเป็นหัวใจของการกำเนิดกำลัง นอกจากนี้ ระบบหัวฉีดอีเล็คโทรนิคส์แบบ L-Jetronic ยังควบคุมปริมาณของน้ำมันที่ฉีดออกมาให้เหมาะสมกับความต้องการของเครื่องยนต์ในแต่ละสภาวะ ยังผลให้ได้กำลังสูงสุดและความประหยัดสูงสุด

ระบบตัดการจ่ายน้ำมันอัตโนมัติขณะชลอรถ ยังช่วยลดความสิ้นเปลืองได้ดีเยี่ยม เครื่องยนต์ของ BMW 318i จึงให้ทั้งกำลังแรง ความเร็วจัด และความประหยัดเป็นเยี่ยม



BMW 318i 2-Door Sedan Safety

สมบูรณ์ด้วยระบบความปลอดภัยสูง ตามแบบฉบับมาตรฐานยุโรป

สิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งที่ BMW คำนึงถึงเมื่อสร้างรถยนต์ทุกคันก็คือความปลอดภัยของทุกชีวิตในห้องโดยสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้องโดยสารของรถสปอร์ตที่มีความเร็วสูงเช่น BMW 318i

นอกจากตัวถังเหล็กกล้าซึ่งส่วนหน้าและส่วนท้ายยุบตัวในลักษณะยืดหยุ่นเพื่อรองรับและลดความรุนแรงของการกระแทกไว้ทั้งหมดเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว BMW 318i ยังมีโครงสร้างห้องโดยสารแบบนิรภัย เสริมด้วยเหล็กรอลล์บาร์โดยรอบผนึกเป็นส่วนเดียวกันตลอด และวัสดุภายในยังเป็นโฟมอัดนิรภัย ทำให้ปลอดภัยจากการกระแทก จึงทำให้คุณมั่นใจยิ่งขึ้น ถ้าเกิดอุบัติเหตุ



BMW 318i 2-Door Sedan Specifications

รายละเอียดทางเทคนิค BMW 318i

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส M10 แบบ 4 สูบแถวเรียง ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็คโทรนิคส์แบบ L-Jetronic ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด บนน้ำหนักตัวรถ 1,000 กิโลกรัม

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

นอกจากความสง่างามแบบสปอร์ต เครื่องยนต์ชั้นยอดที่ให้ทั้งกำลังและความประหยัด พร้อมทั้งความปลอดภัยสูงตามแบบฉบับมาตรฐาน BMW แล้ว BMW 318i ยังถึงพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ วิทยุ-เทป สเตอริโอ พร้อมเสาอากาศแบบอัตโนมัติ, นาฬิกาควอทช์แบบ Analog ง่ายต่อการอ่าน, ปูพรมตลอดทั้งคัน, ลิ้นชักเก็บของแบบมีไฟส่อง, คอนโซลตอนกลางพร้อมกล่องเก็บเทป, ที่เก็บของบริเวณแผงประตูหน้า และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ เบาะหน้าแบบสปอร์ต ซึ่งได้รับการออกแบบอย่างถูกต้องตามหลักสรีระ ยังปรับได้ทั้งระดับความสูง, มุมเงย และช่วงรองต้นขา พร้อมระบบคันโยกแบบพิเศษ เพิ่มช่องทางการเข้า-ออกห้องผู้โดยสารหลัง หมอนพิงศีรษะ 4 ชิ้น ห้องเก็บของท้ายมีไฟส่องสว่าง ภายในบุพรมเรียบร้อย พร้อมกล่องเก็บเครื่องมือขนาดใหญ่ในฝากระโปรงท้าย

ชมและทดลองขับ BMW 318i ใหม่ รถสปอร์ตสมบูรณ์แบบวันนี้

วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560

Nissan Sentra RZ-1 (B12 Minorchange) Leaflet.



The Fantastic Technology ... Twin Cam 16V. EGi 123 แรงม้า

นิสสัน ซันนี่ RZ-1 รุ่นที่ 6 (หรือ นิสสัน เซนทรา RZ-1 ในบ้านเรา) ชูจุดเด่นด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส CA16DE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว EGi ให้แรงม้าสูงสุด 123 แรงม้า

Nissan Sentra RZ-1 โฉมนี้ เป็นรถรุ่นที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะเหล่าวัยรุ่นและคนหนุ่มวัยทำงาน ในโฉมนี้มาพร้อมสโลแกน "เทคโนโลยีร้อนแรง"

ในปี 1991 มีราคาขายอยู่ที่ 550,000 บาท (ราคานี้ไม่รวมแอร์)



Nissan Sentra RZ-1 (B12 Minorchange) Back Leaflet.

เทคโนโลยีร้อนแรง Sentra RZ-1 ความสปอร์ตที่แท้จริงบนถนนของเมืองไทย ยิ่งใหญ่ด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค ทวินแคม 16 วาล์ว หัวฉีดอิเลคโทรนิค (EGI) ควบคุมด้วยสมองกลคอมพิวเตอร์ พร้อมระบบ NICS (Nissan Induction Control System) และระบบจุดระเบิดโดยตรง NDIS (Nissan Direct Ignition System) ให้พลังแรงสูงสุดถึง 123 แรงม้า

Nissan Sentra RZ-1 มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส CA16DE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 123 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.1 กก.-ม. ที่ 5,200 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด บนน้ำหนักตัวรถ 1,080 กิโลกรัม

Nissan Sentra 1.6 SLX (B12 Minorchange) Leaflet.



นิสสัน ซันนี่ รุ่นที่ 6 (หรือ นิสสัน เซนทรา ในบ้านเรา) เปิดตัวออกจำหน่ายกันในช่วงปลายปี 2529 โดยมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร และ 1.5 ลิตร ต่อมาในโฉมไมเนอร์เชนจ์ จึงเพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร เข้ามา

Nissan Sentra โฉมนี้ เป็นรถรุ่นที่ได้รับความนิยมพอสมควรในบ้านเรา ในโฉมนี้มาพร้อมสโลแกน "สะท้อนความล้ำหน้าของคุณ"



Nissan Sentra 1.6 SLX (B12 Minorchange) Back Leaflet.

เหนือชั้นยิ่งขึ้นด้วยเครื่องยนต์ 1600 ซีซี Super Intake ให้แรงบิดที่สูงกว่าในรอบที่ต่ำ เพิ่มความแรงในการออกตัว และประหยัดน้ำมัน ห้องโดยสารกว้างขวาง ตกแต่งอย่างประณีต

Nissan Sentra 1.6 SLX มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส GA16S แบบ 4 สูบ OHC 12 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 87 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.3 กก.-ม. ที่ 3,600 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์เดี่ยว แบบท่อคู่ดูดลงล่าง ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด บนน้ำหนักตัวรถ (ประมาณ) 940 กิโลกรัม

Nissan Sunny FF (B11 Minorchange) Leaflet.



รถรุ่นยอดนิยมจากค่ายสยามกลการ สำหรับ นิสสัน ซันนี่ FF รุ่นที่ 5 เปิดตัวออกจำหน่ายกันตั้งแต่ปี 2526 ขายกันมาอย่างยาวนานถึงสิบกว่าปี ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์กันก็หลายครั้ง เป็นรถยอดนิยมมากในยุคนั้น ในโฉมนี้มาพร้อมสโลแกน "รถที่ไว้ใจได้ตลอดกาล"

สำหรับรุ่นปี 1991 Nissan Sunny FF เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ราคาขายอยู่ที่ 319,000 บาท (ราคานี้ไม่รวมแอร์)

Nissan Sunny FF (B11 Minorchange) Leaflet. Please Remark the Sticker Beside Body is Different in some Model Year.

The First Nissan Sunny Drivetrain in FF type. Sales in Thailand at 1983-1996 in 4-5 times Minorchange with Engine 1.3 and 1.5 Litre, Transmissions 4 and 5 Speed. with Sunny Laurel Spirit and Sunny 1.5 Coupe Model. Very Popular from the First Start Worker, Collegian and New Family.



Nissan Sunny FF (B11 Minorchange) Back Leaflet.

รถยอดนิยมที่คงความดีเด่นดุจเดิม เสริมความเฉียบคมด้วยอุปกรณ์ใหม่ที่คุณอยากให้มีทั้งภายนอกและภายใน กระจังหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมไฟฮาโลเจน เน้นความปลอดภัยด้วยกระจกมองข้างซ้าย-ขวา และไฟ Stop Lamp สติ๊กเกอร์ลายใหม่สวยบาดใจ และอีกหลายสิ่งใหม่ๆ ที่จะพบได้ ในซันนี่ใหม่ 1,300 ซีซี คันนี้

Nissan Sunny FF มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส E13S แบบ 4 สูบ OHC ให้แรงม้าสูงสุด 74 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 10.7 กก.-ม. ที่ 3,600 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์เดี่ยว แบบท่อคู่ดูดลงล่าง ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด บนน้ำหนักตัวรถ (ประมาณ) 835 กิโลกรัม

วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560

Thailand International TRUCK SHOW 2017 ตอกย้ำที่สุดของงานแสดงสินค้ารถบรรทุกและการขนส่งแห่งภูมิภาคอาเซียน


เปิดตัวอย่างเป็นทางการ กับ มหกรรมรถบรรทุกประเทศไทย ครั้งที่ 2 หรือ Thailand International TRUCK SHOW 2017 พร้อมทัพนวัตกรรมรถบรรทุกและรถประกอบการเพื่อการพาณิชย์ มุ่งเชื่อมโยงระบบการขนส่งในภูมิภาคอาเซียน เสริมทัพด้วย ATF ร่วมจัดประชุมสามัญประจำปี กับ 10 ประเทศอาเซียน โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8–10 มิถุนายน 2560 ณ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี



คุณอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศคนที่ 1 กล่าวว่า ความตั้งใจของทางผู้จัดงานที่เห็นความสำคัญของระบบการขนส่งของประเทศไทยที่พร้อมขับเคลื่อนสู่การเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งผู้แสดงสินค้าและผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน ต่างก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดงานครั้งนี้

"ในด้านเศรษฐกิจในประเทศ ทางรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ซึ่งจำเป็นที่ต้องใช้รถบรรทุกเพื่อการอุปโภคและบริโภค บวกกับสัญญาณการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว การเติบโตของการท่องเที่ยว และมูลค่าการค้าในกลุ่ม AEC ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่อาจประเมินคุณค่าทางเศรษฐกิจได้ในอนาคต" นายอลงกรณ์กล่าว



คุณยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางรถบรรทุกแห่งอาเซียน กล่าวว่า ATF เกิดขึ้นมาได้ด้วยการสนับสนุนจาก บริษัท นิชิโอะ เร้นท์ ออล จำกัด และก่อตั้งขึ้น ในปี 2015 ที่ผ่านมา เพียง 1 ปี เราได้บรรลุข้อตกลงของกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน ทั้ง 10 ประเทศ และภายในงานปีนี้จะมีการลงนามของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะทำให้ ASEAN Trucking Federation มีความสมบูรณ์ และนับเป็นโอกาสอันดีที่งานนี้จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจภาคการขนส่งทางถนนของประเทศ ให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นด้วย



คุณศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ กล่าวเสริมว่า งานนี้มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน แตกต่างจากการจัดงานอื่นๆ ที่ผ่านมา ในฐานะทางสำนักงานได้ร่วมเป็นอีกหนึ่งแรงในการประชาสัมพันธ์ เพื่อเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าชมงาน โดยเรามั่นใจว่าจะได้รับความสนใจทั้งจากผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน รวมถึงจะมีผู้ประกอบการจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกเข้าร่วมงาน เพื่อนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านยานยนต์บรรทุกอย่างแน่นอน



และปิดท้ายด้วย Mr.Masashi Nishio ประธานคณะกรรมการจัดงาน Thailand International TRUCK SHOW กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานแสดงสินค้าในครั้งนี้  สำหรับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ของการจัดงานภายใต้แนวคิด "Move Forward with ASEAN Truck Logistics" ซึ่งมีผู้แสดงสินค้ามากกว่า 70 บริษัทชั้นนำทั่วโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ อาทิ Hino, Isuzu, Fuso, Iveco, CIMC, Komatsu, Nittsu Shoji, Furukawa, PTT และสินค้าอื่นๆ อีกมากมายทั้งเคมีภัณฑ์, อะไหล่ที่เกี่ยวข้อง, อุปกรณ์เกี่ยวเนื่องด้านโลจิสติกส์ ซึ่งทางบริษัทล้วนเตรียมโชว์นวัตกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด และเสริมด้วยโปรโมชั่นต่างๆ มาจัดแสดง



"นอกจากนี้ไฮไลต์อีกอย่าง คือ กิจกรรมประชุมใหญ่สามัญของ ATF ซึ่งมีผู้นำจากกลุ่มประเทศอาเซียน บวก 1 เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือการเข้าร่วมเป็นสมาชิก ATF ของ 2 สมาคมยักษ์ใหญ่จากประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้ ASEAN Trucking Federation มีสมาชิกครบ 10 ประเทศในภูมิภาคอาเซียนอย่างสมบูรณ์ในด้านวิชาการนั้น โดยจัดสัมมนานานาชาติ One Belt One Road และ Myanmar the last frontier in Asia เป็นต้น รอบรองว่างานครั้งนี้ครบวงจรและยิ่งใหญ่กว่าครั้งแรกแน่นอน" Mr.Nishio กล่าว



พบกันที่งาน Thailand International TRUCK SHOW 2017 ได้ตั้งแต่วันที่ 8–10 มิถุนายน 2560 ณ  ฮอลล์ 1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี